บทสวดมนต์ ธชัคคสูตร (บาลี พร้อมคำแปล) (พระปริตร เจ็ดตำนาน, สิบสองตำนาน)




บทสวดมนต์  ธชัคคสูตร  จากหนังสือสวดมนต์แปล  ฉบับรวบรวมและแปลโดย  พระศาสนโศภน  (แจ่ม  จตฺตสลฺโล)  วัดมกุฏกษัตริยาราม   ซึ่งได้มอบให้มหามกุฏราชวิทยาลัยเป็นเจ้าของ  (ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 11/2533)  (พิมพ์ครั้งที่ 1 เมื่อปี 2481) (542 หน้า)


สามารถดาวน์โหลด Ebook  ไฟล์ PDF หนังสือสวดมนต์แปล  และไฟล์ DOC, EPUB บทสวดมนต์แปล  มาไว้อ่านบนเครื่องคอมพิวเตอร์/โทรศัพท์มือถือ  ได้ที่  Link  :

https://drive.google.com/drive/folders/0BzNKymgMsofBOThBX3gzNUhWTXc?resourcekey=0-w3YZgnd85d_xWTdYISLL_A&usp=sharing

https://play.google.com/store/search?q=ting074ch&c=books


สามารถรับฟังเสียงสวดมนต์  (สวดมนต์ ทำนองมคธ / ธรรมยุติ  โดยไม่เปลี่ยนเสียงพยัญชนะ)  และเสียงอ่านคำแปลบทสวดมนต์บางบท  ได้ที่ ting074ch Youtube Channel  ที่ Link  :

https://www.youtube.com/channel/UC0lr6qLF2P9Lm5XdtbsXiQw


เริ่มธชัคคสูตร 
(หน้า 75)
      ยสฺสานุสฺสรเณนาปิ  
แม้ด้วยการระลึกถึงปริตรอันใด
อนฺตลิกฺเขปิ   ปาณิโน  
สัตว์ทั้งหลายแม้ในท้องฟ้า
ปติฏฺฐมธิคจฺฉนฺติ  
ย่อมได้ที่พึ่ง
ภูมิยํ   วิย   สพฺพทา  
ดุจสัตว์ในแผ่นดินในกาลทุกเมื่อ
สพฺพูปทฺทวชาลมฺหา  
ยกฺขโจราทิสมฺภวา  
คณนา   น   จ   มุตฺตานํ  
ก็ความนับสัตว์ทั้งหลาย   ผู้พ้นจากข่าย   คือ อุปัทวะทั้งปวง   อันเกิดแก่สัตว์มียักษ์และโจรเป็นต้น   มิได้มี
ปริตฺตนฺตมฺภณาม   เห.  
เราทั้งหลาย   จงสวดปริตรอันนั้น  เทอญ.



ธชัคคสูตร 
(หน้า 76)
      เอวมฺเม   สุตํ
อันข้าพเจ้า  ( พระอานนทเถระ )   ได้สดับมาแล้วอย่างนี้
เอกํ   สมยํ   ภควา  
สมัยหนึ่ง   พระผู้มีพระภาคเจ้า
สาวตฺถิยํ   วิหรติ  
เชตวเน   อนาถปิณฺฑิกสฺส  
อาราเม  
เสด็จประทับอยู่ที่เชตวันวิหาร  อารามของอนาถปิณฑิกเศรษฐี   ใกล้เมืองสาวัตถี
ตตฺร   โข   ภควา   ภิกฺขู  
อามนฺเตสิ   ภิกฺขโวติ  
ในกาลนั้นแล   พระผู้มีพระภาคเจ้า  ตรัสเรียกพระภิกษุทั้งหลายว่า   ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย   ดังนี้แล้ว
ภทนฺเตติ   เต   ภิกฺขู  
ภควโต   ปจฺจสฺโสสุํ  
พระภิกษุเหล่านั้น   จึงทูลรับพระพุทธพจน์  ของพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า   พระพุทธเจ้าข้า   ดังนี้
ภควา   เอตทโวจ  
พระผู้มีพระภาคเจ้า  จึงได้ตรัสพระพุทธพจน์นี้ว่า
ภูตปุพฺพํ   ภิกฺขเว  
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย  เรื่องดึกดำบรรพ์เคยมีมาแล้ว
เทวาสุรสงฺคาโม  
สงครามแห่งเทพดากับอสูร 
สมุปพฺยุฬฺโห   อโหสิ  
ได้เกิดประชิดกันแล้ว
อถโข   ภิกฺขเว   สกฺโก  
ครั้งนั้นแล   ภิกษุทั้งหลาย   ท้าวสักกเทวราช
เทวานมินฺโท   เทเว  
ตาวตึเส   อามนฺเตสิ  
ผู้เป็นเจ้าแห่งพวกเทพดา   เรียกหมู่เทพดาในชั้นดาวดึงส์มาสั่งว่า
สเจ   มาริสา   เทวานํ  
สงฺคามคตานํ   อุปฺปชฺเชยฺย   ภยํ  วา  
ฉมฺภิตตฺตํ   วา   โลมหํโส   วา  
ดูก่อนท่านผู้นิรทุกข์   ถ้าความกลัวก็ดี   ความหวาดสะดุ้งก็ดี   ขนพองสยองเกล้าก็ดี   พึงบังเกิดขึ้นแก่หมู่เทพดา   ผู้ไปสู่สงครามในสมัยใด
มเมว   ตสฺมึ   สมเย  
ธชคฺคํ   อุลฺโลเกยฺยาถ  
ในสมัยนั้น   ท่านทั้งหลายพึงแลดูชายธงของเรานั่นเทียว
มมํ   หิ   โว   ธชคฺคํ   อุลฺโลกยตํ  

เพราะว่า   เมื่อท่านทั้งหลายแลดูชายธงของเราอยู่
ยมฺภวิสฺสติ   ภยํ   วา   ฉมฺภิตตฺตํ  
วา   โลมหํโส   วา  
ความกลัวก็ดี   ความหวาดสะดุ้งก็ดี   ขนพองสยองเกล้าก็ดี   อันใดจักมี
โส   ปหิยฺยิสฺสติ  
อันนั้นจักหายไป
โน   เจ   เม   ธชคฺคํ   อุลฺโลเกยฺยาถ  

ถ้าท่านทั้งหลาย   ไม่แลดูชายธงของเรา
อถ   ปชาปติสฺส   เทวราชสฺส  
ธชคฺคํ   อุลฺโลเกยฺยาถ  
ทีนั้นท่านทั้งหลาย   พึงแลดูชายธงของเทวราชชื่อปชาบดี
ปชาปติสฺส   หิ   โว   เทวราชสฺส  
ธชคฺคํ   อุลฺโลกยตํ  
เพราะว่า   เมื่อท่านทั้งหลายแลดูชายธงของเทวราช   ชื่อปชาบดีอยู่
ยมฺภวิสฺสติ   ภยํ   วา   ฉมฺภิตตฺตํ  
วา   โลมหํโส   วา  
ความกลัวก็ดี   ความหวาดสะดุ้งก็ดี   ขนพองสยองเกล้าก็ดี   อันใดจักมี
โส   ปหิยฺยิสฺสติ  
อันนั้นจักหายไป
โน   เจ   ปชาปติสฺส   เทวราชสฺส  
ธชคฺคํ   อุลฺโลเกยฺยาถ  
ถ้าท่านทั้งหลาย   ไม่แลดูชายธงของเทวราช   ชื่อปชาบดี
อถ   วรุณสฺส   เทวราชสฺส  
ธชคฺคํ   อุลฺโลเกยฺยาถ  
ทีนั้นท่านทั้งหลาย   พึงแลดูชายธงของเทวราช  ชื่อวรุณ
วรุณสฺส   หิ   โว   เทวราชสฺส  
ธชคฺคํ   อุลฺโลกยตํ  
เพราะว่า   เมื่อท่านทั้งหลายแลดูชายธงของเทวราช   ชื่อวรุณอยู่
ยมฺภวิสฺสติ   ภยํ   วา   ฉมฺภิตตฺตํ  
วา   โลมหํโส   วา  
ความกลัวก็ดี   ความหวาดสะดุ้งก็ดี   ขนพองสยองเกล้าก็ดี   อันใดจักมี
โส   ปหิยฺยิสฺสติ  
อันนั้นจักหายไป
โน   เจ   วรุณสฺส   เทวราชสฺส  
ธชคฺคํ   อุลฺโลเกยฺยาถ  
ถ้าท่านทั้งหลาย   ไม่แลดูชายธงของเทวราช   ชื่อวรุณ
อถ   อีสานสฺส   เทวราชสฺส  
ธชคฺคํ   อุลฺโลเกยฺยาถ  
ทีนั้นท่านทั้งหลาย   พึงแลดูชายธงของเทวราช  ชื่ออีสาน
อีสานสฺส   หิ   โว   เทวราชสฺส  
ธชคฺคํ   อุลฺโลกยตํ  
เพราะว่า   เมื่อท่านทั้งหลายแลดูชายธงของเทวราช   ชื่ออีสานอยู่
ยมฺภวิสฺสติ   ภยํ   วา   ฉมฺภิตตฺตํ  
วา   โลมหํโส   วา  
ความกลัวก็ดี   ความหวาดสะดุ้งก็ดี   ขนพองสยองเกล้าก็ดี   อันใดจักมี
โส   ปหิยฺยิสฺสตีติ  
อันนั้นจักหายไป   ดังนี้
ตํ   โข   ปน   ภิกฺขเว  
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย   ก็ข้อนั้นแล
สกฺกสฺส   วา   เทวานมินฺทสฺส  
ธชคฺคํ   อุลฺโลกยตํ  
คือการแลดูชายธงของสักกเทวราช  
ผู้เป็นเจ้าแห่งเทพดาก็ตาม
ปชาปติสฺส   วา   เทวราชสฺส  
ธชคฺคํ   อุลฺโลกยตํ  
การแลดูชายธงของเทวราช   ชื่อปชาบดีก็ตาม
วรุณสฺส   วา   เทวราชสฺส  
ธชคฺคํ   อุลฺโลกยตํ  
การแลดูชายธงของเทวราช   ชื่อวรุณก็ตาม
อีสานสฺส   วา   เทวราชสฺส  
ธชคฺคํ   อุลฺโลกยตํ  
การแลดูชายธงของเทวราช   ชื่ออีสานก็ตาม
ยมฺภวิสฺสติ   ภยํ   วา   ฉมฺภิตตฺตํ  
วา   โลมหํโส   วา  
ความกลัวก็ดี   ความหวาดสะดุ้งก็ดี   ขนพองสยองเกล้าก็ดี   อันใดจักมี
โส   ปหิยฺเยถาปิ   โนปิ   ปหิยฺเยถ  
อันนั้นพึงหายไปได้บ้าง   ไม่หายบ้าง
ตํ   กิสฺส   เหตุ  
ข้อนั้นเป็นเหตุแห่งอะไร
สกฺโก   หิ   ภิกฺขเว   เทวานมินฺโท  
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย   เหตุว่าท้าวสักกเทวราชผู้เป็นเจ้าแห่งเทพดา
อวีตราโค   อวีตโทโส   อวีตโมโห  
เธอมีราคะยังไม่สิ้นไป   มีโทสะยังไม่สิ้นไป  
มีโมหะยังไม่สิ้นไป
ภิรุ   ฉมฺภี   อุตฺตราสี   ปลายีติ  
เธอยังเป็นผู้กลัว   ยังเป็นผู้หวาด   ยังเป็นผู้สะดุ้ง   ยังเป็นผู้หนี   ดังนี้
อหญฺจ   โข   ภิกฺขเว   เอวํ   วทามิ  
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย   ส่วนเราแล กล่าวอย่างนี้ว่า
สเจ   ตุมฺหากํ   ภิกฺขเว  
อรญฺญคตานํ   วา  
รุกฺขมูลคตานํ   วา   
สุญฺญาคารคตานํ   วา   
ถ้าว่าเมื่อท่านทั้งหลาย  
ไปอยู่ในป่าก็ตาม  
ไปอยู่ที่โคนต้นไม้ก็ตาม  
ไปอยู่ในเรือนเปล่าก็ตาม
อุปฺปชฺเชยฺย   ภยํ  วา  
ฉมฺภิตตฺตํ   วา   โลมหํโส   วา  
ความกลัวก็ดี   ความหวาดสะดุ้งก็ดี   ขนพองสยองเกล้าก็ดี   พึงเกิดขึ้นในสมัยใด
มเมว   ตสฺมึ   สมเย  
อนุสฺสเรยฺยาถ  
ในสมัยนั้น   ท่านทั้งหลายพึงระลึก
ถึงเรานั่นเทียวว่า
อิติปิ  
แม้เพราะเหตุนี้
โส   ภควา  
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น
อรหํ  
เป็นผู้ไกลกิเลส   เป็นผู้ควรไหว้   ควรบูชา
สมฺมาสมฺพุทฺโธ  
เป็นผู้รู้ชอบเอง
วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน  
เป็นผู้บริบูรณ์แล้วด้วยวิชชาและจรณะ
สุคโต  
เป็นพระสุคตผู้เสด็จไปดีแล้ว
โลกวิทู  
เป็นผู้ทรงรู้โลก
อนุตฺตโร   ปุริสทมฺมสารถิ  
เป็นผู้ฝึกบุรุษที่ควรฝึก   ไม่มีผู้อื่นยิ่งกว่า
สตฺถา   เทวมนุสฺสานํ  

เป็นศาสดาผู้สอนของเทพดา   และมนุษย์ทั้งหลาย
พุทฺโธ  
เป็นผู้เบิกบานแล้ว
ภควาติ  
เป็นผู้จำแนกธรรม   ดังนี้
มมํ   หิ   โว   ภิกฺขเว   อนุสฺสรตํ  

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย   เพราะว่าเมื่อท่านทั้งหลาย   ตามระลึกถึงเราอยู่
ยมฺภวิสฺสติ   ภยํ   วา   ฉมฺภิตตฺตํ  
วา   โลมหํโส   วา  
ความกลัวก็ดี   ความหวาดสะดุ้งก็ดี   ขนพองสยองเกล้าก็ดี   อันใดจักมี
โส   ปหิยฺยิสฺสติ  
อันนั้นจักหายไป
โน   เจ   มํ   อนุสฺสเรยฺยาถ  
ถ้าท่านทั้งหลายไม่ระลึกถึงเรา
อถ   ธมฺมํ   อนุสฺสเรยฺยาถ  
ทีนั้นพึงตามระลึกถึงพระธรรมว่า
สฺวากฺขาโต   ภควตา   ธมฺโม  
พระธรรมอันพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสดีแล้ว
สนฺทิฏฺฐิโก  
เป็นของอันบุคคลพึงเห็นเอง
อกาลิโก  
เป็นของไม่มีกาลเวลา
เอหิปสฺสิโก  
เป็นของจะร้องเรียกผู้อื่นให้มาดูได้
โอปนยิโก  
เป็นของอันบุคคลพึงน้อมเข้ามาใส่ใจ
ปจฺจตฺตํ   เวทิตพฺโพ   วิญฺญูหีติ  
เป็นของอันวิญญูชนทั้งหลาย   พึงรู้เฉพาะตัว   ดังนี้
ธมฺมํ   หิ   โว   ภิกฺขเว   อนุสฺสรตํ 

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย   เพราะว่าเมื่อท่านทั้งหลาย   ตามระลึกถึงพระธรรมอยู่
ยมฺภวิสฺสติ   ภยํ   วา   ฉมฺภิตตฺตํ  
วา   โลมหํโส   วา  
ความกลัวก็ดี   ความหวาดสะดุ้งก็ดี   ขนพองสยองเกล้าก็ดี   อันใดจักมี
โส   ปหิยฺยิสฺสติ  
อันนั้นจักหายไป
โน   เจ   ธมฺมํ   อนุสฺสเรยฺยาถ  
ถ้าท่านทั้งหลายไม่ระลึกถึงพระธรรม
อถ   สงฺฆํ   อนุสฺสเรยฺยาถ  
ทีนั้นพึงตามระลึกถึงพระสงฆ์ว่า
สุปฏิปนฺโน   ภควโต  
สาวกสงฺโฆ  
พระสงฆ์สาวก   ของพระผู้มีพระภาคเจ้า   เป็นผู้ปฏิบัติดีแล้ว
อุชุปฏิปนฺโน   ภควโต  
สาวกสงฺโฆ  
พระสงฆ์สาวก   ของพระผู้มีพระภาคเจ้า   เป็นผู้ปฏิบัติตรงแล้ว
ญายปฏิปนฺโน   ภควโต  
สาวกสงฺโฆ  
พระสงฆ์สาวก   ของพระผู้มีพระภาคเจ้า   เป็นผู้ปฏิบัติถูกแล้ว
สามีจิปฏิปนฺโน   ภควโต  
สาวกสงฺโฆ  
พระสงฆ์สาวก   ของพระผู้มีพระภาคเจ้า   เป็นผู้ปฏิบัติชอบแล้ว
ยทิทํ  
คือ
จตฺตาริ   ปุริสยุคานิ  
คู่แห่งบุรุษทั้งหลาย  4
อฏฺฐ   ปุริสปุคฺคลา  
บุรุษบุคคลทั้งหลาย  8
เอส   ภควโต   สาวกสงฺโฆ  
นี่พระสงฆ์สาวก   ของพระผู้มีพระภาคเจ้า
อาหุเนยฺโย  
ท่านเป็นผู้ควรสักการะที่เขานำมาบูชา
ปาหุเนยฺโย  
ท่านเป็นผู้ควรของต้อนรับ
ทกฺขิเณยฺโย  
ท่านเป็นผู้ควรทักษิณาทาน
อญฺชลิกรณีโย  
ท่านเป็นผู้ควรอัญชลีกรรม
อนุตฺตรํ   ปุญฺญกฺเขตฺตํ  
โลกสฺสาติ  
ท่านเป็นนาบุญของโลก   ไม่มีนาอื่นยิ่งกว่า   ดังนี้
สงฺฆํ   หิ   โว   ภิกฺขเว   อนุสฺสรตํ  
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย   เพราะว่าเมื่อท่านทั้งหลาย   ระลึกถึงพระสงฆ์อยู่
ยมฺภวิสฺสติ   ภยํ   วา   ฉมฺภิตตฺตํ  
วา   โลมหํโส   วา   
ความกลัวก็ดี   ความหวาดสะดุ้งก็ดี   ขนพองสยองเกล้าก็ดี   อันใดจักมี
โส   ปหิยฺยิสฺสติ  
อันนั้นจักหายไป
ตํ   กิสฺส   เหตุ  
ข้อนั้นเป็นเหตุแห่งอะไร
ตถาคโต   หิ   ภิกฺขเว  

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย   เหตุว่าพระตถาคต
อรหํ   สมฺมาสมฺพุทฺโธ  
เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
วีตราโค   วีตโทโส   วีตโมโห  

มีราคะสิ้นไปแล้ว   มีโทสะสิ้นไปแล้ว   มีโมหะสิ้นไปแล้ว
อภิรุ   อจฺฉมฺภี  
เป็นผู้ไม่กลัว   เป็นผู้ไม่หวาด
อนุตฺตราสี   อปลายีติ  
เป็นผู้ไม่สะดุ้ง   เป็นผู้ไม่หนี   ดังนี้แล
อิทมโวจ   ภควา  

พระผู้มีพระภาคเจ้า   ได้ตรัสพระพุทธพจน์นี้
อิทํ   วตฺวาน   สุคโต  

พระองค์ผู้เป็นพระสุคต   ครั้นตรัสพระพุทธพจน์นี้แล้ว
อถาปรํ   เอตทโวจ   สตฺถา  

ลำดับนั้น   พระองค์ผู้เป็นพระศาสดา   จึงตรัสพระพุทธพจน์นี้ อีกว่า
อรญฺเญ   รุกฺขมูเล   วา  
สุญฺญาคาเรว   ภิกฺขโว  

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย   เมื่อท่านทั้งหลายอยู่ในป่า   หรือในรุกขมูล   หรือในเรือนเปล่า
อนุสฺสเรถ   สมฺพุทฺธํ  
พึงระลึกถึงพระสัมพุทธ
ภยํ   ตุมฺหาก   โน   สิยา  
ภัยจะไม่พึงมี  แก่ท่านทั้งหลาย
โน   เจ   พุทฺธํ   สเรยฺยาถ  
ถ้าท่านทั้งหลาย   ไม่ระลึกถึงพระพุทธ
โลกเชฏฺฐํ   นราสภํ  

ซึ่งเป็นใหญ่กว่าโลก   ประเสริฐกว่านรชน
อถ   ธมฺมํ   สเรยฺยาถ  
ทีนั้นพึงระลึกถึงพระธรรม
นิยฺยานิกํ   สุเทสิตํ  
อันเป็นเครื่องนำออก ที่เราแสดงไว้ดีแล้ว
โน   เจ   ธมฺมํ   สเรยฺยาถ  
ถ้าท่านทั้งหลาย   ไม่ระลึกถึงพระธรรม
นิยฺยานิกํ   สุเทสิตํ  

อันเป็นเครื่องนำออก ที่เราแสดงไว้ดีแล้ว
อถ   สงฺฆํ   สเรยฺยาถ  
ทีนั้นพึงระลึกถึงพระสงฆ์
ปุญฺญกฺเขตฺตํ   อนุตฺตรํ  
ซึ่งเป็นนาบุญของโลก   ไม่มีนาอื่นยิ่งกว่า
เอวมฺพุทธํ   สรนฺตานํ  
ธมฺมํ   สงฺฆญฺจ   ภิกฺขโว  
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย   เมื่อท่านทั้งหลายมาระลึกถึงพระพุทธ   พระธรรม   และพระสงฆ์อยู่อย่างนี้
ภยํ   วา   ฉมฺภิตตฺตํ   วา  
โลมหํโส   น   เหสฺสตีติ.  
ความกลัวก็ดี   ความหวาดสะดุ้งก็ดี   ขนพองสยองเกล้าก็ดี   จักไม่มีแล.



1 ความคิดเห็น:

Link ไปยังบทสวดมนต์อื่นใน Blog นี้

ค้นหา

บทความที่ได้รับความนิยม